ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สีผึ้งและน้ำมัน ของเสน่ห์ที่ออกผลเร็วที่สุด

     เคยเกริ่นไว้ว่ามีเวลาเมื่อไหร่จะเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ อันที่จริงก็เคยเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้คร่าวๆไปแล้ว
เมื่อตอนที่ออกให้บูชา สีผึ้งสาริกาหลวงลิ้นคำเมื่อประมาณ ตุลาคมปีที่แล้ว


และด้วยเนื่องจากช่วยนี้เพิ่งจะทำสีผึ้งขุนแผนชมตลาดและเปิดโหลน้ำมันมหากาม ให้ทุกท่านที่ติดตามกันมาได้ไปใช้กัน เชื่อว่ามีหลายๆท่าน ที่มองข้ามสีผึ้งและน้ำมันไป บางคนมีไว้ก็เอาไปเก็บไว้เฉยๆ บางคนก็แค่พกพา เนื่องจากกลัวหมด บอกกันตรงนี้ว่าใช้กันอย่างเต็มที่ไม่ต้องกลัวหมด เพราะรับรองว่าของตระกูลสึผึ้งและน้ำมัน ทางผมจะทำชุดใหม่เรื่อยๆแน่นอน 

ทีนี้มาว่าถึงเหตุผล ว่าทำไมผมถึงได้บอกว่า ของเสน่ห์ที่ดีที่สุดออกผลได้ไวที่สุดคือของจำพวกสีผึ้งและน้ำมัน ลองคิดกันดูถึงเรื่องที่พูดกันเกี่ยวกับเครื่องรางของขลังสายเสน่ห์ทั้งหลาย ที่มักจะแนะนำกันว่าต้องพกไปในระยะเวลานึงถึงจะเกิดผล ตรงนี้คือเรื่องจริงครับ แต่เคยคิดกันมั้ยครับว่าทำไม?
นั่นก็เพราะว่า เครื่องรางประเภทเนื้อผงหรือล็อดเก็ต ฯ หรืออะไรก็ตามในรูปแบบวัตถุของแข็ง สิ่งนั้นจะประจุด้วยพลังวิชาทางเสน่ห์และจะคายประจุพลังต่างๆทั้งหลายออกมา ก็ต่อเมื่อผู้ใช้แขวนเท่านั้น และจะออกผลอย่างเต็มที่ก็ต่อเมื่อร่างกายผู้ที่แขวนสิ่งนั้น รับเอาพลังงานทั้งหลายเข้าไปในระดับที่มากเพียงพอระดับนึงแล้ว ตัวผู้ใช้มีพลังพระเวทย์ พระมนต์รับพลังเข้าไประดับนึงแล้วเมื่อนั้นถึงจะเห็นผล อันนี้คือที่มาครับ ซึ่งวัตถุเครื่องรางทางเสน่ห์จะต่างจากเหรียญพระ คณาจารย์ ซึ่งตรงนั้นจะอาศัยบารมีของท่านคุ้มครอง ซึ่งจะเป็นของทางแคล้วคลาดปลอดภัยเป็นหลัก ส่วนของทางเสน่ห์กว่าจะออกผลให้เห็นชัดเจนก็ต่อเมื่อผู้ใช้รับเอาพลังจากเครื่องรางไปอย่างเต็มที่แล่วจึงจะออกผลให้เห็นกัน อันนี้คือที่มาว่าทำไมจึงต้องแขวนเครื่องรางต่างๆไปในระยะเวลานึงเพื่อดูว่าใช้แล้วเป็นยังไง อันนี้อธิบายตามแบบหลักวิทยาศาสตร์นะครับแบบเป็นเหตุเป็นผล เพราะไม่ต้องการให้ใครงมงายในไสยศาสตร์คาถาอาคม เพราะอย่างที่บอกอยู่ตลอดว่าผมไม่เคยต้องการให้ใครงมงาย ทั้งในวิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์ และโดยพื้นฐานผมมาจากคนไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์มาก่อน ดังนั้นเมื่อมาสนใจในไสยศาสตร์ผมจึงได้พยายามค้นคว้าศึกษาให้เข้าใจอย่างเป็นเหตุเป็นผล เพื่อจะได้บอกต่อใครๆได้เต็มปากว่าผมไม่ใช่คนงมงาย 
ทีนี้มาว่ากันต่อถึงเหตุผลที่ของตระกูลสีผึ้งและน้ำมันออกผลได้ไวกว่า นั่นก็เพราะอยู่ในรูปแบบของเหลวและในรูปแบบครีม ที่สามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ง่ายผ่านทางรูขุมขน จึงทำให้ร่างกายของเราสามารถรับเอาพลังต่างๆเข้าไปได้ดีกว่าและรวดเร็วกว่านั่นเอง และอีกเหตุผลสำคัญนั่นคือเรื่องกลิ่น ดังที่มีการศึกษากันแบบจริงๆจังๆมานานแล้ว ว่ากลิ่นมีผลต่ออารมณ์ของมนุษย์ สามารถกระตุ้นความหิว ทำให้อารมณ์สงบหรือแม้แต่กระทั่งทำให้เกิดความต้องการทางด้านกามารมณ์ นั่นก็เพราะกลิ่นส่งผลโดยตรงต่อการเร่งฮอร์โมนบางอย่างให้หลั่งออกมา ทำให้เกิดความต้องการไปในเรื่องต่างๆ ที่คุ้นๆเคยกันก็ในชื่อ อโรมาเทอราพี นั่นล่ะครับ เหมือนที่ผมเคยเขียนเกี่ยวกับน้ำมันพรายไปก่อนหน้านี้ที่บอกไว้เกี่ยวกับเรื่อง ฟีโรโมนนั่นล่ะ เป็นหนึ่งในความฉลาดของโบราณจารย์ที่รู้เรื่องนี้มาก่อนที่วิทยาศาสตร์จะหาคำตอบได้ซะอีก เพียงแต่ไม่มีคำอธิบายจะให้ผู้คนเข้าใจได้เวลานั้น 

ดังนั้นเมื่อสีผึ้งและน้ำมัน สามารถซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างดีจึงเป็นการทำให้ออกผลได้ไวแล้ว อีกสาเหตุนึงนั่นก็คือ มีความเชื่อกันว่าพลังจิตที่ส่งออกมากระแสพลังพระเวทย์พระมนต์และแรงครู เป็นพลังคล้ายๆกระแสไฟฟ้าอย่างนึง เมื่อดึงลงมาในน้ำมันหรือสีผึ้งที่ในขณะที่หุงเป็นของเหลว ย่อมสามารถรับพลังและแผ่กระจายได้ดีกว่านั่นเอง การเลี่ยมน้ำมันการแช่น้ำมันเสกหรือแม้กระทั่งการแช่น้ำมนต์ ก็มาจากความเชื่ออันนี้ และก็มักจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างเครื่องรางที่เลี่ยมน้ำมันและไม่เลี่ยมน้ำมันว่า เห็นผลแตกต่างกันได้ชัดในระดับนึง ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการเลี่ยมน้ำมันในวัตถุเครื่องรางทางเสน่ห์ทั้งหลาย นั่นคือเพื่อเสริมให้พลังมากขึ้นและส่งผลได้ไวขึ้นนั่นเองครับ

ผมเชื่อว่ามีหลายคนที่น่าจะเป็นเหมือนกับผม ที่ก่อนนี้ผมเองก็มองข้ามเรื่องสีผึ้งและน้ำมัน ได้มาก็จะเก็บไม่ค่อยที่จะใช้ เนื่องจากบางครั้งก็รู้สึกแปลกๆเช่น เหนอะผิว หรือกลัวผิวหน้าจะมันหรือไปจนถึงรำคาญ
แต่พอผมได้รู้เกี่ยวกับเรื่องการออกผลที่เห็นผลชัดเจน ตั้งแต่นั้นก็เรียกได้ว่าแทบเป็นคนติดสีผึ้งและน้ำมันไปโดยปริยาย เมื่อใช้บ่อยๆเป็นประจำเห็นผลแตกต่างระหว่างที่ใช้่และไม่ได้ใช้สีผึ้ง จึงได้ใช้แทบจะตลอดเวลา และแต่เดิมมาคนโบราณสมัยก่อน ไม่ได้นิยมการพกเครื่องรางของขลังใดๆ ของที่ใช้ในชีวิตประจำวันเขาก็เสกสีผึ้ง น้ำมันจันทร์ น้ำมันทาผม ไปจนถึงบุหรี่หมากพลูเพื่อให้เข้ากับชีวิตประจำวันในช่วงนั้นกันเป็นเรื่องปรกติ ดังนั้นท่านใดที่มีสีผึ้งอย่างเก็บกันอย่างเดียวนะครับ เอามาใช้กันให้เป็นนิสัย และรับรองครับว่าคุณจะเห็นข้อแตกต่างอย่างชัดเจน ยิ่งถ้าทั้งแขวนทั้งใช้สีผึ้ง เมื่อถึงเวลาที่ทั้งสองอย่างออกผลพร้อมกัน รับรองว่าคุณจะรักสีผึ้งและน้ำมันแบบผม และแบบที่อีกหลายๆคนที่ผมเคยแนะนำไปครับผม เชื่อว่าหลายๆคนคงได้รับสีผึ้งขุนแผนชมตลาดกันหมดแล้ว ใช้กันให้เต็มทีเพราะยังมีสีผึ้งอีกหลายวิชาที่อยู่ในโครงการเตรียมจัดสร้าง เอาที่แน่ๆตอนนี้ที่รออยู่ก็คือ สีผึ้งตอแหลที่จะได้ใช้กันในปลายเมษา และสุดเด็ดที่หลายคนรอคอย สีผึ้งและน้ำมันสาริกาหลวงลิ้นคำที่ขอใช้เวลาบ่มให้เต็มที่แล้วรับรองว่าวิชาสาริกาเอกของสำนักฤษเวทย์ ทุกท่านจะได้ใช้กันอีกครั้งครับผม

สมิงเดชา ฤษเวทย์------คนธรรมดาผู้ใช้เวทย์ของฤาษี

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิชาธรรมบรรลุ

วิชาธรรมบรรลุ การเรียนธรรมบรรลุ หนึ่งในวิชาโบราณอันลึกลับแห่งสายอีสาน ยากที่จะหาคำอธิบายที่สุดวิชานึง  หากจะกล่าวถึงต้นสายที่แท้จริงผู้เขียนเองก็จนปัญญาเนื่องจากไม่มีการบันทึกว่าเริ่มต้นแต่เมื่อใดสมัยใด แต่ปัจจุบันมีการแตกสายไปหลายทาง เช่นวิชาธรรมเก้าโกฎิ วิชาธรรมห้องพระไตร  วิชาธรรมฤาษี วิชาธรรมบรรดาล ในที่นี้จะกล่างถึงแค่สายของตัวผู้เขียน ซึ่งต้นสายใหญ่ แตกแขนงออกมาจาก  คุณพ่อใหญ่ธรรมฝั้น บ้านนาดอกไม้ และสายวิชาธรรมเก้าโกฐิ สายตักศิลานคร รายละเอียดแต่ละสายจะต่างกันในบางเรื่องเช่น เรื่องห้องเรื่องขันแต่สุดท้ายทุกๆสาย จะมีจุดมุ่งหมายไปทางเดียวกันการเข้ารับพลังของดวงแก้วดวงธรรมฝึกจิตขัดเกลาใจเช่นเดียวกัน วิชาธรรมบรรลุมีความแปลกพิศดารตรงที่แต่ล่ะคนจะได้คาถาบทเดียวกันแต่เมื่อผ่านการยัดธรรมขึ้นขันธรรมแล้ว  จะสวดภาษาต่างๆโดยที่ตัวผู้สวดเองก็ไม่รู้ตัว บางคนก็เป็นภาษากูโบส บางคนก็ภาษา เขมร พม่า จีน อินเดีย ตามแต่ที่ดวงพระธรรมท่านจะโปรด  ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่การฝึกของผู้ร่ำเรียนเอง บางคนก็ได้หลายภาษาก็อยู่ที่ผลการปฎิบัติมาแต่ตั้งเดิมมาแต่สัญญาก่อน  การเรี...

พระสุรัสวดี เทวีแห่งพระเวทย์และความรู้

พระแม่สุรัสวดี เป็นที่ที่นับถือกันอย่างสูงในนิกายศักติ นิกายนี้ถือเอาเทวีเป็นหลักมานับถือบูชา มีความเชื่อว่าพลังอำนาจแบ่งออกเป็นสองฝ่ายคืออำนาจแห่งบุรษเทพ และอำนาจแห่งสตรีเทพ เทวีสูงสุดทั้ง 3 ของนิกายศักติ จึงเป็นชายาของมหาเทพทั้ง 3 พระศิวะ พระนารายณ์และพรพรหม แต่โดยหลักจะนับพระแม่อุมา ชายาของพระศิวะเป็นหลักตามแนวทางของไศวนิกาย ในบทความนี้จะขอกล่าวถึงแต่เพียง พระสุรีสวดีเพียงพระองค์เดียว พระองค์จะถูกวาดสื่ออกมาในรูปแบบ สตรีผู้มีความสุขุม เยือกเย็น มองแล้วชวนให้สงบ มากกว่ามองแล้วจะรู้สึกถึงความมีอำนาจ และความงดงามแบบพระลักษมี ตามตำนานเล่าว่า พระแม่ทรงเป็นต้นกำเนิดแห่งคัมภีร์พระเวทย์ ซึ่งมีการก่อนศาสนาพราหมณ์ที่ยึดเอาคัมภีร์พระเวทย์เป็นหลัก อีกทั้งยังเป็นต้นกำเนิดแห่งอักษร และประดิษฐ์วีณาขึ้นมา จึงได้ถือเอาพระแม่เป็นทั้งเทวีแห่งสรรพความรู้ เวทย์มนต์คาถา ศิลปการแสดงและดนตรี ดังที่ในบ้านเราจะมีการมอบรางวัล พระสุรัสวดีแก่นักแสดงดีเด่นในแต่ละปี ในรูปที่สื่อออกแทนองค์พระแม่ มักจะอยู่ในรูปแบบเทวี 4 กร ในมือจะถือวีณา สร้อยลูกประคำ มีความหมายถึงการภาวนาและการชำระจิต คัมภีร์หรือหนังสือ...

ต้องธรณีสาร โทษร้ายแรงที่คนโบราณสะพึงกลัว แต่คนปัจจุบันแทบจะไม่สนใจ

เมื่อว่าถึงคำว่า ต้องธรณีสารแน่นอนว่าผู้สนใจทางไสยศาสตร์และคนเล่นเครื่องรางของขลัง ล้วนจะเคบได้ยินกันผ่านหูมาบ้าง คำนี้แม้จะเคยได้ยินกันแต่น้อยคนที่จะรู้ จะเข้าใจว่าต้องธรณีสารเป็นอย่างไร บางครั้งก็จนตัวเองต้องธรณีสารไปแล้ว แต่ยังไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ก็ย่ำแย่หาเวลาแก้ไขก็สายเกินไปเสียแล้ว ......อธิบายง่ายๆ การต้องธรณีสารก็คือการที่ซวยแบบไม่รู้จบ ไม่รู้สิ้น ซวยซ้ำซวยซ้อน ชีวิตไม่มีเรื่องดีๆเกิดขึ้น ของหายอยู่เป็นประจำอันเป็นเหตุให้เสียเงินซื้อบ่อยๆ หนักกว่านั้นก็คือป่วยแบบไม่ทราบสาเหตุ มีเงินเท่าไหร่ก็หมดไปกับการรักษา ชีวิตแทบจะไม่เป็นอันได้อยู่เป็นสุข เอากันแบบชัดเจนก็คือโดนคว่ำบาตรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดาทั้งหลาย ที่นอกจากจะไม่ช่วยเหลือแล้วยังซ้ำเติมให้หนักขึ้นกว่าเดิม   การต้องธรณีสาร เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่นคนที่ไปทำพิธี ถือวิชา ใช้เครื่องรางของขลัง แล้วทำผิดข้อห้ามต่างๆ ที่ครูบาอาจารย์ผู้ได้ลงวิชา ทำพิธีให้ท่านได้บอกไว้ เช่นถ่มน้ำลายลงโถส้วม ผิดลูกเมียคนอื่น ด่าพ่อแม่ทำร้ายบุพการี ลักทรัพย์หรือเสพยา ถ้าเป็นการผิดในเรื่องเบาๆ ส่วนมากก็แค่พิธีกรรมต่างๆที่ได้กระทำไปเสื่อมไม...