ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ความเข้าใจผิดมหันต์เกี่ยวกับน้ำมันพราย

      เชื่อว่าหลายๆคนยังมีความเข้าใจผิดกันไม่น้อย เกี่ยวกับน้ำมันพราย เคยเขียนเกี่ยวกับเรื่อง
น้ำมันพรายไปเมื่อนานมาแล้ว ระยะเวลาผ่านไปยากแก่การค้นหา จึงขอนำมาเรียบเรียงใหม่อีกครั้ง



  ความเข้าใจผิดหลักเกี่ยวกับน้ำมันพราย มาจากนิยายผีเล่มล่ะ 1 บาทในสมัยก่อน ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากศิลปินท่านนึง ใครๆที่ชื่นชอบเรื่องผี คงพอคุ้นเคยกับชื่อของ ครูเหม เวชกร จิตรกรและนักประพัมธ์เกี่ยวกับเรื่องผีๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดี ของผู้ชอบเกี่ยวกับนิยายสยองขวัญทั้งหลาย ครูเหม เวชกร เขียนนิยายเกี่ยวกับ ผีแบบไทยๆ นิยายผีแบบไทย เนื้อเรื่องที่เราคุ้นเคยกันดี เช่นวิญญาณผู้ตายออกตามล้างแค้น
เกี่ยวกับน้ำมันพรายก็เป็นเรื่องแนวๆ หนุ่มผู้อาภัพรัก ต้องอาศัยน้ำมันพรายไปป้าย ไปดีดใส่คนที่หมายปอง แล้วก็ได้ครอบครองสาวผู้หมายปองสมดังใจ..........ทว่า ไม่ได้มีจุดจบสวยเลยซักตอนสำหรับชายหนุ่มผู้หลงผิด ไปใช้น้ำมันพรายในการพิชิตใจสาว นั่นก็คือจุดจบสาวคนนั้น โดยวิญญาณเข้าสิงเข้าแฝง หรือเมื่อน้ำมันพรายเสื่อมฤทธิ์ สาวหมดรักเสียใจที่ต้องตกเป็นเมียคนที่ตัวเองไม่ได้รัก ก็ฆ่าตัวตาย กลายเป็นผีมาแก้แค้น ชายผู้ที่ใช้น้ำมันพรายกับตน ในแต่ล่ะตอนบทสรุปเกี่ยวกับน้ำมันพรายล้วนจบลงแบบนี้ แทบจะทุกครั้ง แต่ด้วยคนสมัยปัจจุบัน เพื่อสิ่งที่ตนต้องการจะได้มาแล้ว ไม่สนใจสิ่งใดๆ ไม่สนว่าต่อไปจะเกิดสิ่งใดๆขึ้น และหนักไปกว่านั้น คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องน้ำมันพราย ไม่รู้จักครูเหม เวชกร......

มาถึงเรื่องน้ำมันพรายของจริงๆ สิ่งที่เป็นจริงของน้ำมันพรายคืออะไร ถ้าถึงตรงนี้ใครยังคงเพ้อฝันถึงว่า เอาน้ำมันพราย ไปป้าย ไปดีดใส่คนที่หมายปองแล้วจะได้ครอบครองโดยที่ไม่ต้องจีบ ก็ขอให้เลิกอ่านตั้งแต่บรรทัดนี้ เพราะว่าหลังจากนี้ไปจะเป็นการทำลายความฝันของคุณ 
น้ำมันพรายของจริงๆนั้น ถามว่ามีผลทำให้เกิดความต้องการทางกามารมณ์ คนโบราณมีการใช้น้ำมันพรายจริงๆหรือไม่ คำตอบก็คือจริงครับ เพียงแต่สิ่งที่คนโบราณใช้น้ำมันพรายไม่ได้มีความต้องการใช้อำนาจภูติพรายในน้ำมันแต่อย่างใด จุดประสงค์หลักจริงๆ เพราะต้องการสารชนิดนึงที่เวลานั้นมีเฉพาะในร่างกายมนุษย์เท่านั้น นั่นคือสารที่ชื่อว่า ฟีโรโมน สารฟีโรโมนที่ว่านี้มีผลช่วยกระตุ้นให้เกิดความต้องการทางการเสพสมให้กับเพศตรงข้าม และโดยปรกติแล้วฟีโรโมนจะออกจากร่ายกายของเพศหญิงเป็นหลัก ดังนั้นแล้วอย่าได้แปลกใจว่าทำไมเวลาเราอยู่ใกล้กับหญิงสาว บางครั้งแม้จะพยายามไม่คิดอะไรแต่ก็มักจะเกิดความคิดเรื่องอย่างว่าแบบไม่อาจห้ามได้ นั่นก็เพราะผลมาจากฟีโรโมนซึ่งจะไปออกผลกับสมองโดยตรง แต่ในสมัยโบราณยังไม่มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ พร้อมทั้งฟีโรโมนไม่มีการสังเคราะห์ขายแบบในปัจจุบัน หนทางเดียวที่จะได้ฟีโรโมนมานั่นคือ เอาจากศพคนตายซึ่งต้องเป็นศพผู้หญิงเท่านั้นและมีความเชื่อว่ายิ่งสาวสวยจะยิ่งแรง นั่นก็เพราะในคนหน้าตาดีมักจะมีการหลั่งสารฟีโรโมนออกมาเยอะ ซึ่งเรื่องนี้มีการวิจัยออกมาทางวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องเป็นราวแล้ว และสำคัญกว่านั้น
สารฟีโรโมนจะคงอยู่เฉพาะในร่างกายไม่เกิน 7 วันหลังจากเสียชีวิต และหลังจากได้มาจากศพดังกล่าวแล้วก็จะคงอยู่อีกไม่เกิน 7 วันเช่นกัน ดังนั้นในสมัยก่อนการที่จะได้น้ำมันพรายที่ใช้ได้ผลจริงๆจึงยากมากๆ และถึงได้มาก็ไม่สามารถเก็บไว้ได้ต้องใช้เลยเท่านั้น มีฉะนั้นน้ำมันดังกล่าวก็จะกลายเป็นแค่น้ำเหลืองจากมนุษย์ที่ส่งเพียงกลิ่นเน่าเหม็นเท่านั้น วิธีที่คนโบราณใช้นั่นก็คือทาตามเสื้อผ้าของผู้ใช้
แล้วพยายามไปพูดคุย หาโอกาสอยู่สองต่อสองกับคนที่หมายปอง รอให้คนที่หมายปองเกิดอารมณ์ ทุกๆอย่างก็ง่ายดาย และคนโบราณเมื่อเสียตัวได้เสียกันแล้วก็มักจะตกกระไดพลอยโจน อยู่กินกันตามประสาผัวเมีย เพราะเรื่องทางเพศ ทางกามารมณ์ยังไม่ได้เปิดกว้างเหมือนสมัยปัจจุบัน จึงเป็นที่มีมาของความเชื่อว่าใช้และจะสมหวังได้ครอบครองคนที่หมายปอง จนเชื่อกันอย่างฝังหัวว่าผิดหวัง ไม่สมหวังในรักต้องใช้น้ำมันพรายเข้าช่วยเท่านั้น เชื่อกันแบบผิดจนยากที่จะแก้ไขความเชื่อนี้ไปแล้ว.......
ซึ่งถ้าพิจารณากันถึงน้ำมันพราย ที่หากันได้ง่ายในปัจจุบัน จริงบ้างเก๊บ้าง แต่พิจารณากันจากที่ทำกันจริงๆ ปัจจุบันนี้หลังจากได้น้ำมันพรายก็จะทำการปลุกเสก ประจุพลังมนต์วิชาต่างๆหรือกำกับวิญญาณเจ้าของมวลสารให้ช่วยเสริมพลัง ซึ่งขั้นตอนทั้งหลายนี้แน่นอนว่าเกินเวลา 7 วันแน่ๆ 
ดังนั้นตัดเงื่อนไขเรื่องคุณสมบัติแบบที่คนโบราณเขาใช้กันไปได้เลย

 น้ำมันพรายในยุคปัจจุบัน ถ้าเอากันจริงๆ กันก็คือน้ำเหลืองจากซากศพมนุษย์ ดังนั้นการป้ายหรือการผสมให้กินแบบที่โฆษณากัน พิจารณากันด้วยมันคือการเอาน้ำเหลืองไปป้ายผิวหนังและให้คนอื่นกิน
น้ำเหลืองจากศพ ถ้าพูดแบบนี้จะยังรู้สึกดีรู้สึกชอบน้ำมันพรายกันอยู่มั้ยครับ แน่นอนว่ามีแต่เชื้อโรค ไปป้ายบางคนที่ผิวเขาบาง ภูมิต้านทานไม่ดี ซึมเข้าสู่ร่างกายอาจเกิดอาการเจ็บป่วย ติดเชื้อต่างๆได้ ยิ่งให้กินยิ่งแล้วใหญ่เกิดผลเสียหนักหลายเท่ายิ่งกว่าป้าย น้ำมันพรายในยุคปัจจุบันที่ให้ป้าย ให้กินเพราะหวังผลเรื่องการให้วิญญาณหรือจิตในน้ำมันเข้าแฝงตัวผู้ถูกกระทำหรือเข้าสิงนั่นเอง พรายในน้ำมันแบบนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพรายที่เป็นโทษ นั่นคือหวังที่จะแผงร่างกายคน เพื่อได้กินอาหารได้มีความรู้สึก ได้สัมผัสเหมือนเมื่อครั้งตนเองมีชีวิต นั่นคือเป็นพรายที่ให้โทษมากกว่าจะเป็นพรายที่เลี้ยงเพื่อให้คุณ 
น้ำมันพรายของจริงๆ ถ้าผู้สร้างมีความรับผิดชอบก็มักจะสั่งกำชับ ไม่ให้นำไปป้ายหรือผสมให้คนกิน ให้กระทำการเพียงแค่เลี้ยงและใช้งานจิตในน้ำมันให้กระทำเรื่องต่างๆ จิตที่อยู่ในน้ำมันลักษณะนี้ก็มักจะไม่ได้มีการบังคับ การจะให้เขาช่วยหรือกระทำสิ่งใดๆ ก็เป็นการแลกเปลี่ยนกับเครื่องเซ่นกับการทำบุญ ไม่ได้ใช้ไปในทางให้แงเข้าร่างกายหรือเข้าสิงคนเพื่อกระทำสิ่งต่างๆแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องที่ว่าป้ายแล้วได้ ป้ายแล้วติด ไม่จำเป็นต้องเป็นน้ำมันพรายเท่านั้น ผลของสิ่งเหล่านี้มาจากมนต์วิชาทางด้านการกระทำย่ำยีจิตใจ น้ำมันว่านต่างๆก็สามารถทำได้หากจิตของผู้กระทำเจนจบในวิชานั้นๆ 
ไม่ได้ว่ามีแต่เพียงน้ำมันพรายอย่างเดียว ที่มีผลทางด้านให้เกินทางด้านมหาละลวย ใจอ่อนว่าง่าย 
แต่โบราณก็ใช้เพียงแค่น้ำมันจันทร์ สีผึ้ง หรือเสกบุหรี่เป่าควันให้พัดไปทางทิศทางคนที่หมายปอง 
ให้เกิดอาการใจอ่อน คิดถึงผู้ที่กระทำ บางครั้งก็หนักถึงขนาดหอบผ้าผ่อนมาหาถึงที่ โดยที่ไม่ได้ใช้น้ำมันพรายแต่อย่างใด ดังนั้นทำความเข้าใจซะใหม่เกี่ยวกับน้ำมันพราย 
จากการที่สังเกตุ ผู้ที่หวังพึ่งน้ำมันพรายในการป้ายและดีดคนที่หมายปอง มักจะเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ไม่กล้าจีบสาว ไม่กล้าเข้าคุยเข้าหา เลยต้องแอบเอาน้ำมันป้าย เอาน้ำมันทา ซึ่งนอกจากจะไม่ได้ผลให้คนที่เรามาปองมาชอบเราแล้วยังทำให้เขามีโอกาสโดยพรายเข้าแผง หรือติดเชื้อบางอย่างจากน้ำพรายที่ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผมเห็นหลายคนที่ได้รับผลกระทบจากการโดนน้ำมันพรายป้าย เอาให้กิน บางคนถึงขนาดเป็นบ้า รักษาไม่หายก็หลายราย โดยที่ตัวคนที่ป้ายไม่ได้มารับผิดชอบใดๆ คนเดือดร้อนก็คืนคนในครอบครัวของผู้ที่โดนป้าย เห็นแล้วก็ได้แต่สังเวชใจ
อ่านกันมาจนถึงตอนนี้แล้ว หากใครยังคิดที่จะหาน้มันพรายมาใช้หรือหวังพึ่งน้ำมันพราย ก็ขอให้ท่านทำความเข้าใจเสียใหม่ หากต้องการให้เกิดผลทางกามารมณ์ให้ไปซื้อฟีโรโมนมาใช้ซะจะตรงกับความต้องการของท่านมากกว่า จะหาจะอาบก็เอาแต่ในคุณจะต้องการ ไม่มีผลเสียตามมา
ส่วนถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วยังคงเชื่อว่าน้ำมันพรายให้ผล ป้ายแล้วติดป้ายแล้วได้ หรือยังมีความคิดที่จะหาน้ำมันพรายมาใช้ป้ายหรือนำให้คนที่ตนต้องการกิน ก็ขอความกรุณาท่านจงเลิกติดตามอ่านบทความของผมเสีย เพราะสำนักฤษเวทย์แห่งนี้ ไม่สอนให้ใครกระทำการแบบขี้ขลาดแบบนั้น จงกระทำตัวให้เป็นสุภาพบุรุษทั้งทางโลกและทางธรรม มีมโนสำนึกกับทุกการกระทำ ที่นี่เน้นสอนให้ทุกคนมีความมั่นใจ เชื่อมั่นในตัวเอง กระทำการใดๆให้สำเร็จด้วยตนเอง ไม่ได้หวังให้พึ่งเพียงแต่ของขลัง วัตถุต่างๆ เพราะจะเน้นย้ำเสมอว่าเครื่องรางไม่ใช่ทุกอย่าง มันเป็นเพียงแค่ตัวเสริม จงกระทำตนเป็นคนใช้เครื่องราง อย่างกระทำตนให้เป็นทาสของเครื่องราง เพราะนอกจากมันจะไม่ได้เสริมอะไรชีวิตคุณแล้ว มันยังจะทำให้คุณเสียเงินเสียทองโดยเปล่าประโยชน์ ยาวแต่อยากให้อ่านและทำความเข้าใจให้ถูกต้อง
ขอจบเรื่องราวเกี่ยวกับน้ำมันพรายแต่เพียงเท่านี้ รอบหน้ามาลงลึกเกี่ยวกับจำพวกน้ำมันและสีผึ้งทางเสน่ห์ทั้งหลาย และทำไมผมถึงได้เน้นย้ำและกล้าพูดได้ว่า ในบรรดาเครื่องราง วัตถุทางเสน่ห์ทั้งหลาย ไม่มีอะไรใช้ได้ผลแรงและเร็วเท่าสีผึ้งและน้ำมัน รอติดตามอ่านเร็วๆนี้ครับ 





ความคิดเห็น

  1. ผมเคยเรียนแต่ยังไม่เคยยัดขึ้นครูแต่รู้เห็นอยากศึกษาต่อคับ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิชาธรรมบรรลุ

วิชาธรรมบรรลุ การเรียนธรรมบรรลุ หนึ่งในวิชาโบราณอันลึกลับแห่งสายอีสาน ยากที่จะหาคำอธิบายที่สุดวิชานึง  หากจะกล่าวถึงต้นสายที่แท้จริงผู้เขียนเองก็จนปัญญาเนื่องจากไม่มีการบันทึกว่าเริ่มต้นแต่เมื่อใดสมัยใด แต่ปัจจุบันมีการแตกสายไปหลายทาง เช่นวิชาธรรมเก้าโกฎิ วิชาธรรมห้องพระไตร  วิชาธรรมฤาษี วิชาธรรมบรรดาล ในที่นี้จะกล่างถึงแค่สายของตัวผู้เขียน ซึ่งต้นสายใหญ่ แตกแขนงออกมาจาก  คุณพ่อใหญ่ธรรมฝั้น บ้านนาดอกไม้ และสายวิชาธรรมเก้าโกฐิ สายตักศิลานคร รายละเอียดแต่ละสายจะต่างกันในบางเรื่องเช่น เรื่องห้องเรื่องขันแต่สุดท้ายทุกๆสาย จะมีจุดมุ่งหมายไปทางเดียวกันการเข้ารับพลังของดวงแก้วดวงธรรมฝึกจิตขัดเกลาใจเช่นเดียวกัน วิชาธรรมบรรลุมีความแปลกพิศดารตรงที่แต่ล่ะคนจะได้คาถาบทเดียวกันแต่เมื่อผ่านการยัดธรรมขึ้นขันธรรมแล้ว  จะสวดภาษาต่างๆโดยที่ตัวผู้สวดเองก็ไม่รู้ตัว บางคนก็เป็นภาษากูโบส บางคนก็ภาษา เขมร พม่า จีน อินเดีย ตามแต่ที่ดวงพระธรรมท่านจะโปรด  ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่การฝึกของผู้ร่ำเรียนเอง บางคนก็ได้หลายภาษาก็อยู่ที่ผลการปฎิบัติมาแต่ตั้งเดิมมาแต่สัญญาก่อน  การเรี...

พระสุรัสวดี เทวีแห่งพระเวทย์และความรู้

พระแม่สุรัสวดี เป็นที่ที่นับถือกันอย่างสูงในนิกายศักติ นิกายนี้ถือเอาเทวีเป็นหลักมานับถือบูชา มีความเชื่อว่าพลังอำนาจแบ่งออกเป็นสองฝ่ายคืออำนาจแห่งบุรษเทพ และอำนาจแห่งสตรีเทพ เทวีสูงสุดทั้ง 3 ของนิกายศักติ จึงเป็นชายาของมหาเทพทั้ง 3 พระศิวะ พระนารายณ์และพรพรหม แต่โดยหลักจะนับพระแม่อุมา ชายาของพระศิวะเป็นหลักตามแนวทางของไศวนิกาย ในบทความนี้จะขอกล่าวถึงแต่เพียง พระสุรีสวดีเพียงพระองค์เดียว พระองค์จะถูกวาดสื่ออกมาในรูปแบบ สตรีผู้มีความสุขุม เยือกเย็น มองแล้วชวนให้สงบ มากกว่ามองแล้วจะรู้สึกถึงความมีอำนาจ และความงดงามแบบพระลักษมี ตามตำนานเล่าว่า พระแม่ทรงเป็นต้นกำเนิดแห่งคัมภีร์พระเวทย์ ซึ่งมีการก่อนศาสนาพราหมณ์ที่ยึดเอาคัมภีร์พระเวทย์เป็นหลัก อีกทั้งยังเป็นต้นกำเนิดแห่งอักษร และประดิษฐ์วีณาขึ้นมา จึงได้ถือเอาพระแม่เป็นทั้งเทวีแห่งสรรพความรู้ เวทย์มนต์คาถา ศิลปการแสดงและดนตรี ดังที่ในบ้านเราจะมีการมอบรางวัล พระสุรัสวดีแก่นักแสดงดีเด่นในแต่ละปี ในรูปที่สื่อออกแทนองค์พระแม่ มักจะอยู่ในรูปแบบเทวี 4 กร ในมือจะถือวีณา สร้อยลูกประคำ มีความหมายถึงการภาวนาและการชำระจิต คัมภีร์หรือหนังสือ...

หมอธรรมคือ?

   หมอธรรม คืออะไร  คำว่า หมอ แปลความหมายก็คือ ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ เช่นหมอลำ ก็คือผู้เชี่ยวชาญด้านการลำ หมอแคน ก็คือผู้เชี่ยวชาญด้านการเป่าแคน หมอทำขวัญนาค ก็ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำขวัญนาค และอีกหลายหมอก็ตามแต่ว่าหมอไหนจะเชี่ยวชาญเรื่องใดๆ คำว่าหมออกความหมายก็คือผู้รักษา ดังนั้นหากแปลตามตัว หมอธรรมก็คือ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับธรรมและรักษาด้วยธรรมนั่นเอง   หากแต่วิชาที่หมอธรรมร่ำเรียน มิได้เป็นแค่การรักษาด้วยว่านยา และถ่ายทอดธรรมคำสอนศาสนาเพียงอย่างเดียว หมอธรรมผู้ที่จะเป็นต้องศึกษาเกี่ยวกับวิชาคาถาอาคม ไสยศาสตร์ให้แตกฉาน เพราะหน้าที่ของหมอธรรม มีมากมาย ทั้งเป็นผู้ช่วยพระ ปราบผี ปราบปอบ รดน้ำมนต์ถอนของต่างๆ นั่นก็เพราะแต่โบราณ ความเชื่อเรื่องคาถาอาคม คนเล่นของเรียนวิชามากมายกว่าสมัยนี้ บางครั้งก็ผีป่า ผีเข้าเจ้าสิงนั้นมีมากมาย เพราะแต่เดิมการนับถือผีเป็นที่แพร่หลาย ก่อนที่จะมีการรับศาสนาพุทธจะเข้ามาเป็นหลักในภายหลัง   วิชาที่หมอธรรมร่ำเรียน นอกจากคาถาอาคม-เวทย์มนต์ ก็ยังมีวิชาเฉพาะของหมอธรรม ที่เรียกกันว่า วิชาธรรม ที่ปัจจุบันแตกแขนงออกไปหลายอย่าง เช่น ธรร...