ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ต้องธรณีสาร โทษร้ายแรงที่คนโบราณสะพึงกลัว แต่คนปัจจุบันแทบจะไม่สนใจ


เมื่อว่าถึงคำว่า ต้องธรณีสารแน่นอนว่าผู้สนใจทางไสยศาสตร์และคนเล่นเครื่องรางของขลัง ล้วนจะเคบได้ยินกันผ่านหูมาบ้าง คำนี้แม้จะเคยได้ยินกันแต่น้อยคนที่จะรู้ จะเข้าใจว่าต้องธรณีสารเป็นอย่างไร
บางครั้งก็จนตัวเองต้องธรณีสารไปแล้ว แต่ยังไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ก็ย่ำแย่หาเวลาแก้ไขก็สายเกินไปเสียแล้ว
......อธิบายง่ายๆ การต้องธรณีสารก็คือการที่ซวยแบบไม่รู้จบ ไม่รู้สิ้น ซวยซ้ำซวยซ้อน ชีวิตไม่มีเรื่องดีๆเกิดขึ้น ของหายอยู่เป็นประจำอันเป็นเหตุให้เสียเงินซื้อบ่อยๆ หนักกว่านั้นก็คือป่วยแบบไม่ทราบสาเหตุ
มีเงินเท่าไหร่ก็หมดไปกับการรักษา ชีวิตแทบจะไม่เป็นอันได้อยู่เป็นสุข เอากันแบบชัดเจนก็คือโดนคว่ำบาตรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดาทั้งหลาย ที่นอกจากจะไม่ช่วยเหลือแล้วยังซ้ำเติมให้หนักขึ้นกว่าเดิม
  การต้องธรณีสาร เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่นคนที่ไปทำพิธี ถือวิชา ใช้เครื่องรางของขลัง แล้วทำผิดข้อห้ามต่างๆ ที่ครูบาอาจารย์ผู้ได้ลงวิชา ทำพิธีให้ท่านได้บอกไว้ เช่นถ่มน้ำลายลงโถส้วม ผิดลูกเมียคนอื่น ด่าพ่อแม่ทำร้ายบุพการี ลักทรัพย์หรือเสพยา ถ้าเป็นการผิดในเรื่องเบาๆ ส่วนมากก็แค่พิธีกรรมต่างๆที่ได้กระทำไปเสื่อมไม่เกิดผล ส่วนถ้าข้อห้ามหนักๆนั่นก็จะนำพาไปสู่การต้องธรณีสารนั่นเองครับ
   ในกรณีของผู้ที่มาลงพิธีหรือผู้ถือเครื่องรางของขลัง ส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีปัญหาหนักๆ เว้นแต่ทำผิดเป็นประจำ รู้ว่าผิดแล้วยังทำแบบตั้งใจหรือที่เรียกกันว่าลองของ อันนั้นมักจะหนีไม่พ้นครับ
  ส่วนกรณีที่หนักๆนั่นคือ คนเรียนวิชา คนถือวิชา ใช้วิชาแบบส่งเดช ไม่ได้เรียนไม่ได้ยกคาย ยกขันใดๆ
นำวิชาต่างๆไปใช้เอง ประเภทนี้มักจะโดนต้องธรณีสารแบบหนักๆ ที่เรียกว่าโดนอาถรรพ์วิชา
มีความเชื่อว่า ปู่ฤาษีพระเพชรฉลูกัณฑ์ ท่านได้สร้างหุ่นพยนต์ไว้ตนนึง เอาไว้เล่นงานพวกผิดครูผิดข้อห้ามต่างๆโดยเฉพาะ เอ่ยถึงหุ่นพยนต์ทุกๆคนก็คงทราบดี ว่าไม่ได้มีหัวจิตหัวใจกระทำไปตามหน้าที่
เอาอธิบายง่ายๆก็ไม่ต่างจากหุ่นยนต์ที่ทำทุกอย่างตามโปรแกรมนั่นล่ะครับ ซึ่งการต้องธรณีสารการโดนอาถรรพฺวิชาต่างๆ มักจะไม่เกิดผลแบบทันทีทันใด มักจะค่อยๆส่งผลจนทำให้ผู้ที่ต้องธรณีสารไม่ได้เอะใจ กว่าจะรู้และพิจารณาได้สงสัยว่าตัวเองต้องธรณีสาร ก็จนเมื่อเจอเรื่องซวยซ้ำซวยซ้อนแบบไม่จบไม่สิ้นตามที่บอกไปนั่นล่ะครับ ที่เอ่ยมาไม่ได้ขู่หรือพยายามทำให้ตกอยู่ในความกลัว แต่อยากให้พิจารณากันถึงเรื่องนี้กันซักหน่อย เพราะในยุคนี้แทบจะไม่มีใครเกรงกลัวเรื่องการต้องธรณีสารกันแล้ว
ละเลยกับคำนี้กันไปอย่างน่าใจหายและบอกตรงๆว่าผมเองก็กลัวแทนครับ ทั้งๆที่โบราณจารย์ท่านเตือนกันนักหนา เกี่ยวกับเรื่องนี้จนถึงขนาดว่าก่อนประกอบพิธีกรรมใดๆ ต้องล้างธรณีสารตัวเองเสียก่อน
เชื่อกันมั้ยครับว่าคนเรียนคาถาอาคมสมัยนี้ไม่รู้จักคาถาล้างธรณีสาร เห็นแล้วก็ได้แต่สังเวชใจ
  ดังนั้นก่อนที่จะลืมเลือน ก่อนที่คำเตือนให้เกรงกลัวการต้องธรณีสารจะหายไป ขอให้ทุกท่านพิจารณาตัวท่านเองด้วย ว่ามีข้อห้ามใดๆที่ได้ฝ่าฝืนได้ละเลยกันบ้างรึเปล่า คนเล่นของคนถือวิชาในสมัยโบราณ
เขามักจะไปอาบน้ำมนต์หรือนำน้ำมนต์ที่วัดมาอาบเองที่บ้านอยู่เสมอ แต่สมัยปัจจุบันจะเหลือซักที่คนที่ทำกันแบบนี้อยู่ เตือนไว้ให้ทราบก่อนที่จะสายเกินไป เพราะที่หนักกว่านั้นคือคนต้องธรณีสาร พิธีกรรม คาถาอาคม เครื่องรางใดๆที่กระทำไป จะไม่เกิดผลกับคนต้องธรณีสารครับ ดังนั้นใครที่ชอบบ่นว่า ใช้ของที่ดน่นก็เงียบ ใช้ของที่นี่ก็ไม่เกิดผล พิจารณาตัวเองว่าเป็นที่ของหรือเป็นเพราะว่าคุณต้องธรณีสาร
    ห่างหายจากการเขียนบทความให้อ่านเนื่องด้วยภารกิจที่มากมาย แต่รับรองว่าบทความต่างๆจะมีมาให้อ่านไม่ขาดครับผม อ่านแล้วพิจารณาหวังจะให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ที่ติดตามและสมาชิกกลุ่มมากที่สุดครับผม            
                                                                   ....สมิงเดชา ฤษเวทย์ ผู้ใช้เวทย์แห่งฤาษี.......
  

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิชาธรรมบรรลุ

วิชาธรรมบรรลุ การเรียนธรรมบรรลุ หนึ่งในวิชาโบราณอันลึกลับแห่งสายอีสาน ยากที่จะหาคำอธิบายที่สุดวิชานึง  หากจะกล่าวถึงต้นสายที่แท้จริงผู้เขียนเองก็จนปัญญาเนื่องจากไม่มีการบันทึกว่าเริ่มต้นแต่เมื่อใดสมัยใด แต่ปัจจุบันมีการแตกสายไปหลายทาง เช่นวิชาธรรมเก้าโกฎิ วิชาธรรมห้องพระไตร  วิชาธรรมฤาษี วิชาธรรมบรรดาล ในที่นี้จะกล่างถึงแค่สายของตัวผู้เขียน ซึ่งต้นสายใหญ่ แตกแขนงออกมาจาก  คุณพ่อใหญ่ธรรมฝั้น บ้านนาดอกไม้ และสายวิชาธรรมเก้าโกฐิ สายตักศิลานคร รายละเอียดแต่ละสายจะต่างกันในบางเรื่องเช่น เรื่องห้องเรื่องขันแต่สุดท้ายทุกๆสาย จะมีจุดมุ่งหมายไปทางเดียวกันการเข้ารับพลังของดวงแก้วดวงธรรมฝึกจิตขัดเกลาใจเช่นเดียวกัน วิชาธรรมบรรลุมีความแปลกพิศดารตรงที่แต่ล่ะคนจะได้คาถาบทเดียวกันแต่เมื่อผ่านการยัดธรรมขึ้นขันธรรมแล้ว  จะสวดภาษาต่างๆโดยที่ตัวผู้สวดเองก็ไม่รู้ตัว บางคนก็เป็นภาษากูโบส บางคนก็ภาษา เขมร พม่า จีน อินเดีย ตามแต่ที่ดวงพระธรรมท่านจะโปรด  ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่การฝึกของผู้ร่ำเรียนเอง บางคนก็ได้หลายภาษาก็อยู่ที่ผลการปฎิบัติมาแต่ตั้งเดิมมาแต่สัญญาก่อน  การเรี...

พระสุรัสวดี เทวีแห่งพระเวทย์และความรู้

พระแม่สุรัสวดี เป็นที่ที่นับถือกันอย่างสูงในนิกายศักติ นิกายนี้ถือเอาเทวีเป็นหลักมานับถือบูชา มีความเชื่อว่าพลังอำนาจแบ่งออกเป็นสองฝ่ายคืออำนาจแห่งบุรษเทพ และอำนาจแห่งสตรีเทพ เทวีสูงสุดทั้ง 3 ของนิกายศักติ จึงเป็นชายาของมหาเทพทั้ง 3 พระศิวะ พระนารายณ์และพรพรหม แต่โดยหลักจะนับพระแม่อุมา ชายาของพระศิวะเป็นหลักตามแนวทางของไศวนิกาย ในบทความนี้จะขอกล่าวถึงแต่เพียง พระสุรีสวดีเพียงพระองค์เดียว พระองค์จะถูกวาดสื่ออกมาในรูปแบบ สตรีผู้มีความสุขุม เยือกเย็น มองแล้วชวนให้สงบ มากกว่ามองแล้วจะรู้สึกถึงความมีอำนาจ และความงดงามแบบพระลักษมี ตามตำนานเล่าว่า พระแม่ทรงเป็นต้นกำเนิดแห่งคัมภีร์พระเวทย์ ซึ่งมีการก่อนศาสนาพราหมณ์ที่ยึดเอาคัมภีร์พระเวทย์เป็นหลัก อีกทั้งยังเป็นต้นกำเนิดแห่งอักษร และประดิษฐ์วีณาขึ้นมา จึงได้ถือเอาพระแม่เป็นทั้งเทวีแห่งสรรพความรู้ เวทย์มนต์คาถา ศิลปการแสดงและดนตรี ดังที่ในบ้านเราจะมีการมอบรางวัล พระสุรัสวดีแก่นักแสดงดีเด่นในแต่ละปี ในรูปที่สื่อออกแทนองค์พระแม่ มักจะอยู่ในรูปแบบเทวี 4 กร ในมือจะถือวีณา สร้อยลูกประคำ มีความหมายถึงการภาวนาและการชำระจิต คัมภีร์หรือหนังสือ...

หมอธรรมคือ?

   หมอธรรม คืออะไร  คำว่า หมอ แปลความหมายก็คือ ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ เช่นหมอลำ ก็คือผู้เชี่ยวชาญด้านการลำ หมอแคน ก็คือผู้เชี่ยวชาญด้านการเป่าแคน หมอทำขวัญนาค ก็ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำขวัญนาค และอีกหลายหมอก็ตามแต่ว่าหมอไหนจะเชี่ยวชาญเรื่องใดๆ คำว่าหมออกความหมายก็คือผู้รักษา ดังนั้นหากแปลตามตัว หมอธรรมก็คือ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับธรรมและรักษาด้วยธรรมนั่นเอง   หากแต่วิชาที่หมอธรรมร่ำเรียน มิได้เป็นแค่การรักษาด้วยว่านยา และถ่ายทอดธรรมคำสอนศาสนาเพียงอย่างเดียว หมอธรรมผู้ที่จะเป็นต้องศึกษาเกี่ยวกับวิชาคาถาอาคม ไสยศาสตร์ให้แตกฉาน เพราะหน้าที่ของหมอธรรม มีมากมาย ทั้งเป็นผู้ช่วยพระ ปราบผี ปราบปอบ รดน้ำมนต์ถอนของต่างๆ นั่นก็เพราะแต่โบราณ ความเชื่อเรื่องคาถาอาคม คนเล่นของเรียนวิชามากมายกว่าสมัยนี้ บางครั้งก็ผีป่า ผีเข้าเจ้าสิงนั้นมีมากมาย เพราะแต่เดิมการนับถือผีเป็นที่แพร่หลาย ก่อนที่จะมีการรับศาสนาพุทธจะเข้ามาเป็นหลักในภายหลัง   วิชาที่หมอธรรมร่ำเรียน นอกจากคาถาอาคม-เวทย์มนต์ ก็ยังมีวิชาเฉพาะของหมอธรรม ที่เรียกกันว่า วิชาธรรม ที่ปัจจุบันแตกแขนงออกไปหลายอย่าง เช่น ธรร...