ห่างหายจากการเขียนอะไรให้อ่านพอสมควร ด้วยงานที่เยอะพอสมควร ทำให้สมองค่อยข้างตัน คิดอะไรๆมาเขียนไม่ค่อยออก พอมีเวลานิดๆหน่อยๆ ก็เขียนให้อ่านกันเพลินๆสลับกับงานขายครับ
วันนี้ว่าด้วยเรื่องผี คำนี้หลายๆคนรู้จักดีอยู่แล้ว หากแต่ส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดอยู่ ว่าผี หมายถึงวิญญาณคนที่ตายไปแล้ว เหมาเอาไปรวมพวกสัมภเวสี
วิญญาณเร่ร่อน ภูติพรายต่างๆ เท่านั้น แต่ความจริงแล้วคำว่าผี มีความหมายที่ลึกไปกว่านั้นครับ
เมื่อเอ่ยถึงศาสนาผี การนับถือผี ของคนอุษาคเนย์แต่โบราณ คนปัจจุบันจึงมักจะเข้าใจกันไปว่า นับถือของต่ำ งมงาย สมัยปัจจุบันนับถือ พระรัตนตรัย เทพเทวาต่างๆ นับถือผีเป็นเรื่องไม่ควร แต่ในความหมายของผี ของคนอุษาคเนย์แต่โบราณ ผีนั้นครอบคลุมทั้งหมดครับ ผีชั้นสูง ผีฟ้า พญาแถน นี่ก็ที่คนสมัยนี้รู้จักในชื่อพระอินทร์ เทวดา ทั้งหลาย วิญญาณบรรพบุรุษ พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง ทั้งหมดเหล่านี้คือผีครับผม เพราะมีความเชื่อของคนโบราณคือ คนในบ้านตายกลายเป็นผีบ้าน เจ้าเมืองตายกลายเป็นผีเมือง หมอผี หมอธรรมตายกลายเป็นผีครู ผีวิชา คอยรักษาและชี้นำผู้มีชีวิตอยู่รุ่นหลัง ในอยู่เย็นเป็นสุข พิธีไหว้ผีก็เป็นไปเพื่อการเซ่นไหว้วิญญาณ
ศาสนาผี ลัทธิบูชาผี โดนกล่าวว่างมงาย จากการเริ่มต้นของการพยายามล้างความเชื่อด
แต่ถึงแม้ทางการจะพยายามลบล้างความเชื่อเร
สิ่งที่แยกผีและเทพที่คนโบราณแยกจากกันไม่
ส่วนชาวบ้านทั่วๆไปจะนับถือผี สังเกตุได้จากเทวาลัยต่างๆ มักจะเป็นส่วนนึงของปราสาทืั้งหลายเสมอ
อ่านจนถึงตรงนี้แล้ว หากใครมากล่าวหาว่าคนนับถือผีเป็นพวกลัทธิ
เข้าให้ถึง เข้าใจให้เป็น สัมผัสให้ถึงพลังแห่งธรรมชาติ พลังเหนือโลกทั้งหลาย ศรัทธาและงมงายต่างกันเพียงเส้นบางๆคั่น จะอยู่ทางไหนเลือกเอาเองครับ ที่นี่ไม่สอนใช้เชื่อแบบขาดสติ เชื่อเพราะว่าบอกให้เชื่อต่อๆกันมา
สำนักฤษเวทย์ ไม่ต้องการให้ใครมางมงายในไสยศาตร์ครับผม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น