หมอธรรม คืออะไร คำว่า หมอ แปลความหมายก็คือ ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ เช่นหมอลำ ก็คือผู้เชี่ยวชาญด้านการลำ หมอแคน ก็คือผู้เชี่ยวชาญด้านการเป่าแคน หมอทำขวัญนาค ก็ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำขวัญนาค และอีกหลายหมอก็ตามแต่ว่าหมอไหนจะเชี่ยวชาญเรื่องใดๆ คำว่าหมออกความหมายก็คือผู้รักษา ดังนั้นหากแปลตามตัว หมอธรรมก็คือ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับธรรมและรักษาด้วยธรรมนั่นเอง
หากแต่วิชาที่หมอธรรมร่ำเรียน มิได้เป็นแค่การรักษาด้วยว่านยา และถ่ายทอดธรรมคำสอนศาสนาเพียงอย่างเดียว หมอธรรมผู้ที่จะเป็นต้องศึกษาเกี่ยวกับวิชาคาถาอาคม ไสยศาสตร์ให้แตกฉาน เพราะหน้าที่ของหมอธรรม มีมากมาย ทั้งเป็นผู้ช่วยพระ ปราบผี ปราบปอบ รดน้ำมนต์ถอนของต่างๆ นั่นก็เพราะแต่โบราณ ความเชื่อเรื่องคาถาอาคม คนเล่นของเรียนวิชามากมายกว่าสมัยนี้ บางครั้งก็ผีป่า ผีเข้าเจ้าสิงนั้นมีมากมาย เพราะแต่เดิมการนับถือผีเป็นที่แพร่หลาย ก่อนที่จะมีการรับศาสนาพุทธจะเข้ามาเป็นหลักในภายหลัง
วิชาที่หมอธรรมร่ำเรียน นอกจากคาถาอาคม-เวทย์มนต์ ก็ยังมีวิชาเฉพาะของหมอธรรม ที่เรียกกันว่า วิชาธรรม ที่ปัจจุบันแตกแขนงออกไปหลายอย่าง เช่น ธรรมบรรลุ ธรรมเก้าโกฎิ ธรรมห้องพระไตร ธรรมฤาษี ธรรมบันดาล และอีกหลายๆธรรม แต่โดยรวมวิชาเหล่านี้เรียกว่าวิชาธรรมทั้งหมด รายละเอียดก็แตกต่างกันแต่ครูธรรมผู้ถ่ายทอดท่านจะกำหนด
หมอธรรมมีภาจกิจหลัก คือต้องฝึกฝนตัวเอง ถือศีลศึกษาธรรม ศึกษาฮีต(จารีต)ถือครอง(ข้อกำหนด ข้อห้ามต่างๆ เช่นถือศีล 5-8) และการสวดธรรมหรือที่เรียกกันว่าการปั่นธรรม การสวดธรรม ปั่นธรรมของหมอธรรม เรียกได้ว่าเป็นสิ่งลี้ลับและหาคำตอบไม่ได้ นั่นก็เพราะคำบริกรรม-ภาวนาที่หมอธรรมสวดกันนั้น มีเพียงแค่คำภาวนาสั้นๆเช่น พุทโธ แต่ก็มักจะเปลี่ยนเป็นเสียงสำเนียงภาษาต่างๆ แตกต่างกันไป เช่นเป็นภาษา กูโบส จีน แขก เขมร และอีกหลายภาษาที่ยากที่จะฟังออกโดยรวมแล้วมีทั้งหมด 32 ภาษา ที่เรียกกันว่า 32 ภาษาธรรม หมอธรรมฝึกหัดแรกก็จะได้เพียงไม่กี่สำเนียงภาษาธรรมหรืออาจจะแค่หนึ่ง แต่เมื่อฝึกไปเรื่อยๆ ถึงขั้นเรื่อยๆก็จะสามารถแตกฉานในภาษาธรรมอื่นๆต่อไปเรื่อยๆ ที่เรียกกันว่าเชื่อนห้องเลื่อนขั้น หมอธรรมที่เรียนจนแตกฉานสามารถปั่นธรรมสวดธรรมได้อย่างคล่องแล้ว ก็สามารถที่จะถ่ายทอดให้กับผู้อื่นได้ กลายเป็นครูธรรมคอยถ่ายทอด คอยสอนวิชาธรรมให้ผู้ที่สนใจศึกษาเล่าเรียนกันต่อไป
การปั่นธรรมของหมอธรรม เชื่อกันว่าเป็นการดึงพลังของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ครูบาอาจารย์จากเบื้องบน มาช่วยกระทำการต่างๆ เช่นไล่ผี ปราบปอบ ล้างอาถรรพ์ต่างๆ ทั้งยังเป็นการขอพลังจากครูบาอาจารย์มาช่วยอำนวยพร ให้สิ่งต่างๆการเสกเครื่องรางของขลังต่างๆ ให้มีพลังแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
ปัจจุบัน หมอธรรมมีความสำคัญน้อยลงไป จากแต่เดิมที่จะมีหมอธรรมประจำหมู่บ้าน แต่ด้วยความเจริญเข้าถึง การรักษาที่ทันสมัย การลดลงของพื้นที่ป่าทั้งหลาย ผีปอบที่น้อยลงจนแทบจะไม่มี ทำให้ความจำเป็นของหมอธรรมที่จะอยู่ประจำหมู่บ้านลดลง แต่ก็ยังมีหลายๆแห่งทีรักษาและถ่ายทอดวิชาธรรม สอนหมอธรรมรุ่นต่อๆมา ทางหนึ่งเพื่อรักษาและอนุรักษ์ภูมิปัญญาโบราณไว้ไม่ให้สูญหาย และบางครั้งก็ยังคงมีเรื่องลี้ลับ ที่มีเพียงเฉพาะหมอธรรมเท่านั้นที่จะแก้ไขตรงนี้ได้ หมอธรรมจึงยังคงไม่หายไปในช่วงเวลาอันใกล้นี้แน่ๆ และในช่วงสิบปีหลังนี้ การเรียนธรรมเพิ่งได้รับความนิยม มีผู้ที่สนใจศึกษาวิชาคาถาอาคมไสยศาสตร์พยายามขอร่ำเรียนเรื่อยๆ ปัจจุบันทางสำนักก็มีการสอนวิชาธรรมบรรลุตำรับอีสานเช่นกัน ผู้ที่สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้งครับ
เรียนได้ที่ใหนครับ
ตอบลบ