หนึ่งในพิธีกรรมที่คนศึกษาไสยศาสตร์และชื่นชอบเครื่องรางคาถาอาคมทั้งหลาย รู้จักและคุ้นเคยกันดี
นั่นก็คือพิธีไหว้ครูหรือครอบครู แต่แรกเริ่มเดิมทีการครอบครูหรือครอบเศียรนั้นกระทำกันเพียงเฉพาะทางสายนาฏศิลป์เท่านั้น นัยว่าเพื่อให้สวมบทบาทเป็นตัวละครนั้นๆได้อย่างถึงจิตวิญญาณ ในทางไสยศาสตร์และคาถาอาคมจะมีเพียงการครอบตำรา ประสิทธิ์วิชาต่างๆเท่านั้นไม่มีการครอบเศียรครูแต่อย่างใด แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลงมีการนำเอาการครอบเศียรแบบทางนาฏศิลป์เข้ามาประยุกต์ จึงทำให้การครอบเศียรครูกลายเป็นหนึ่งพิธีกรรม และกลายเป็นพิธีกรรมหลักในการไหว้ครูทางไสยศาสตร์ไปโดยปริยาย
ที่มาแห่งการครอบเศียรครู มาจากคำว่าปริญ แปลว่าครอบหรือรอบ ปริญญา แปลตรงตัวความหมายก็คือ ผู้รอบรู้ในเรื่องนั้นๆ เช่นปริญญานิติศาตร์ ก็คือผู้ที่ได้รับการยอมรับว่ารอบรู้ในเรื่องนิติศาสตร์,แพทยศาสตร์,ภาษาศาสตร์ ก็ความหมายเดียวๆกัน นั่นคือได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ ให้นำวิชาความรู้ต่างๆมาใช้ในประโยชน์ในชีวิตได้ แต่ในทางไสยศาสตร์ผู้ที่จะสามารถเข้าสู่แรงครู วิชาคาถาอาคมทั้งหลาย ล้วนสำเร็จด้วยแรงครู ผู้ที่สนใจจะร่ำเรียนหรือสัมผัสกับพลังทางด้านคาถาอาคมทั้งหลาย ต้องมีแรงครูประสิทธิ์ประสาทจึงจะสามารถเข้าถึงพลังแห่งแรงครูได้ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการครอบเศียรครู เพื่อให้แรงครู ให้ครูเบื้องบนท่านรับรู้ ได้สามารถเข้าถึงพลังคาถาอาคมต่างๆได้ดียิ่งๆขึ้น
ยิ่งโดยเฉพาะผู้ที่ได้รับการลงอักขระเลขยันต์ ลงวิชาลงของต่างๆ ในแต่โบราณล้วนถือกันอย่างยิ่งว่าต้องไปทุกปี หรือห่างหายไปก็ห้ามเว้นเกิน 2 ปี มิฉะนั้นอักขระเลขยันต์ต่างๆที่ได้ลงไว้จะเสื่อมไป
และในอีกทางหนึ่งการเข้าร่วมพิธีไหว้ครู ก็คือการขอขมาในสิ่งต่างๆที่ได้ทำผิดข้อห้าม การกระทำใดๆที่เป็นการผิดครู หรือไปจนถึงการต้องธรณีสารโดนอาถรรพ์วิชา จะได้รับการขจัดปัดเป่า ผ่อนหนักให้เป็นเบา ก็ด้วยอานิสงค์ของการครอบครูนี่เอง และในอีกทางหนึ่งถือเป็นการรวมของศิษยานุศิษย์ให้รักและสนิทกันมากขึ้นจากการได้พบปะพูดคุยกันในวันนี้
ดังนั้นจึงถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งของผู้ที่ใช้เครื่องรางของขลัง ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องกระทำหากคิดที่จะรับและสัมผัสกับพลังเหนือโลกทั้งหลาย นี่คือก้าวแรกและก้าวสำคัญในการเปิดให้พลังเหนือโลกทั้งหลายเข้ามาสู่ตัวเราอย่างเป็นทางการ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น