ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

วิธีสร้างบุญบารมี

  หากเอ่ยถึงการหมั่นสร้างบุญบารมี คาดว่าจำนวนไม่น้อย คิดไปกันว่าคือการตื่นแต่เช้าไปใส่บาตร หิ้วถังสังฆทานเข้าวัด บริจาคเงินทำการกุศลต่างๆ และมีจำนวนหลายคนคิดน้อยอก น้อยใจไปว่า ลำพังแค่เงินจะใช้จ่ายในเรื่องจำเป็นก็แทบจะไม่พออยู่แล้ว จะเอาเงินที่ไหนไปทำบุญ คนจนๆอย่างเราคงไม่มีโอกาสได้ทำบุญสร้างวาสนากับคนอื่นๆเขาหรอก คงต้องทนทุกข์ต่อไปทั้งแบบนี้ล่ะ หนักกว่านั้นก็คือบางคนถึงขนาดยอมกู้หนี้ ยืมสิน เพื่อเอาเงินไปทำบุญถึงขนาดนั้นก็มี.....นั่นก็เพราะด้วยค่านิยมปัจจุบันที่ทำให้คิดกันไปแบบนั้น ในเมื่อวัดส่วนใหญ่ทำหน้าที่เป็นศูนย์การค้าบุญ คือสอนๆกันว่าอยากทำบุญต้องไปวัดเท่านั้น ซึ่งผิดถนัดโดยสิ้นเชิง เพราะการทำบุญสร้างบารมี สร้างกุศลนั้นมีหลายวิธี วิธีที่ว่าๆมานี้เป็นเพียงแค่หนึ่งในวิธีทำบุญที่เรียกกันว่าทานมัย คือบุญจากการให้ทาน ยังมีที่นอกเหนือจากการทำทานนั่นก็คือ
1.ทานมัย (บุญที่ได้จากทารให้ทาน) อันนี้ที่กล่าวมาข้างต้น
2.สีลมัย (บุญที่ได้จากการรักษาศีล)
3.ภาวนามัย( บุญที่ได้จากการสวดมนต์ บำเพ็ญภาวนา )
4.อปจานยมัย (บุญที่ได้จากการอ่อนน้อมถ่อมตน ต่อผู้ใหญ่และผู้ที่ควรให้ความเคารพ)
5.เวยยาวัจจมัย (บุญที่ได้จากการขวนขวายพยายามทำความดี)
6.ปัตติทานมัย (บุญที่ได้จากการแผ่เมตตา อุทิศบุญกุศลทั้งหลาย)
7.ปัตตานุโมทนามัย (บุญที่ได้จากการยินดีในบุญที่ผู้อื่นกระทำ)
8.ธัมมัสสวนมัย (บุญที่ได้จากการฟังธรรม)
9.ธัมมเทสนามัย (บุญที่ได้การจากเผยแพร่ธรรมแก่ผู้อื่น)
10.ทิฎฐชุกัมม์(บุญที่ได้จากการทำพยายามทำความจิตใจไปในทางสัมมาทิฎฐิ)
ดังจะเห็นได้ว่า การสร้างบุญบารมีมีที่ใช้เงินแค่ข้อเดียวเท่านั้นเอง เพียงแต่คนส่วนใหญ่เน้นไปทางการใส่บาตร ทำสังฆทาน เพราะว่าเห็นว่าง่ายเอาความสะดวกเข้าว่า แบบนั้นให้ทำทุกวันๆแต่ละเลยข้อต่างๆ ก็เรียกได้ว่าแทบจะไม่ได้บุญเลย นั่นก็เพราะยิ่งทำยิ่งเพิ่มอัตตาให้ตัวเอง ว่ากูคือคนดีทำบุญอยู่เป็นประจำ ซึ่งน่าจะเห็นกันได้ประจำๆยิ่งในช่วงนี้พวกที่เรียกว่าตัวเองว่าพุทธแท้ ก็มักจะเป็นแบบนี้ซะส่วนใหญ่ครับ ดังนั้นขอจงทำความเข้าใจกันใหม่เกี่ยวกับการทำบุญ คนที่ไม่พร้อมทางด้านปัจจัยก็ไม่ต้องน้อยอกน้อยใจ ยังมีวิธีสร้างบุญเหล่านี้ให้ท่านทั้งหลายได้ปฎิบัติกัน ไม่จำเป็นต้องใช้เงินแม้แต่นิดเดียว
 อย่างน้อยๆการที่เราได้เกิดเป็นมนุษย์นั่นก็หมายความว่าเป็นโอกาสอันดีอย่างยิ่ง ที่เราจะได้มีโอกาสสร้างบุญเสริมบารมี จงอย่าท้อใจที่จะเริ่มสร้างบุญบารมีตั้งแต่วันนี้ครับ ขอยกอมตะวาจาขอสมเด็จโตท่านมาทิ้งท้ายไว้ตรงนี้ ท่านเคยกล่าวไว้ว่า "บุญเราไม่เคยสร้าง ใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า" อย่าไปหวังเพียงจะพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านช่วยๆอยู่นั้นล้วนแต่จำเป็นต้องเอาพลังแห่งบุญของเรามาเป็นสิ่งหนุนทั้งสิ้นครับ
 


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิชาธรรมบรรลุ

วิชาธรรมบรรลุ การเรียนธรรมบรรลุ หนึ่งในวิชาโบราณอันลึกลับแห่งสายอีสาน ยากที่จะหาคำอธิบายที่สุดวิชานึง  หากจะกล่าวถึงต้นสายที่แท้จริงผู้เขียนเองก็จนปัญญาเนื่องจากไม่มีการบันทึกว่าเริ่มต้นแต่เมื่อใดสมัยใด แต่ปัจจุบันมีการแตกสายไปหลายทาง เช่นวิชาธรรมเก้าโกฎิ วิชาธรรมห้องพระไตร  วิชาธรรมฤาษี วิชาธรรมบรรดาล ในที่นี้จะกล่างถึงแค่สายของตัวผู้เขียน ซึ่งต้นสายใหญ่ แตกแขนงออกมาจาก  คุณพ่อใหญ่ธรรมฝั้น บ้านนาดอกไม้ และสายวิชาธรรมเก้าโกฐิ สายตักศิลานคร รายละเอียดแต่ละสายจะต่างกันในบางเรื่องเช่น เรื่องห้องเรื่องขันแต่สุดท้ายทุกๆสาย จะมีจุดมุ่งหมายไปทางเดียวกันการเข้ารับพลังของดวงแก้วดวงธรรมฝึกจิตขัดเกลาใจเช่นเดียวกัน วิชาธรรมบรรลุมีความแปลกพิศดารตรงที่แต่ล่ะคนจะได้คาถาบทเดียวกันแต่เมื่อผ่านการยัดธรรมขึ้นขันธรรมแล้ว  จะสวดภาษาต่างๆโดยที่ตัวผู้สวดเองก็ไม่รู้ตัว บางคนก็เป็นภาษากูโบส บางคนก็ภาษา เขมร พม่า จีน อินเดีย ตามแต่ที่ดวงพระธรรมท่านจะโปรด  ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่การฝึกของผู้ร่ำเรียนเอง บางคนก็ได้หลายภาษาก็อยู่ที่ผลการปฎิบัติมาแต่ตั้งเดิมมาแต่สัญญาก่อน  การเรี...

พระสุรัสวดี เทวีแห่งพระเวทย์และความรู้

พระแม่สุรัสวดี เป็นที่ที่นับถือกันอย่างสูงในนิกายศักติ นิกายนี้ถือเอาเทวีเป็นหลักมานับถือบูชา มีความเชื่อว่าพลังอำนาจแบ่งออกเป็นสองฝ่ายคืออำนาจแห่งบุรษเทพ และอำนาจแห่งสตรีเทพ เทวีสูงสุดทั้ง 3 ของนิกายศักติ จึงเป็นชายาของมหาเทพทั้ง 3 พระศิวะ พระนารายณ์และพรพรหม แต่โดยหลักจะนับพระแม่อุมา ชายาของพระศิวะเป็นหลักตามแนวทางของไศวนิกาย ในบทความนี้จะขอกล่าวถึงแต่เพียง พระสุรีสวดีเพียงพระองค์เดียว พระองค์จะถูกวาดสื่ออกมาในรูปแบบ สตรีผู้มีความสุขุม เยือกเย็น มองแล้วชวนให้สงบ มากกว่ามองแล้วจะรู้สึกถึงความมีอำนาจ และความงดงามแบบพระลักษมี ตามตำนานเล่าว่า พระแม่ทรงเป็นต้นกำเนิดแห่งคัมภีร์พระเวทย์ ซึ่งมีการก่อนศาสนาพราหมณ์ที่ยึดเอาคัมภีร์พระเวทย์เป็นหลัก อีกทั้งยังเป็นต้นกำเนิดแห่งอักษร และประดิษฐ์วีณาขึ้นมา จึงได้ถือเอาพระแม่เป็นทั้งเทวีแห่งสรรพความรู้ เวทย์มนต์คาถา ศิลปการแสดงและดนตรี ดังที่ในบ้านเราจะมีการมอบรางวัล พระสุรัสวดีแก่นักแสดงดีเด่นในแต่ละปี ในรูปที่สื่อออกแทนองค์พระแม่ มักจะอยู่ในรูปแบบเทวี 4 กร ในมือจะถือวีณา สร้อยลูกประคำ มีความหมายถึงการภาวนาและการชำระจิต คัมภีร์หรือหนังสือ...

หมอธรรมคือ?

   หมอธรรม คืออะไร  คำว่า หมอ แปลความหมายก็คือ ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ เช่นหมอลำ ก็คือผู้เชี่ยวชาญด้านการลำ หมอแคน ก็คือผู้เชี่ยวชาญด้านการเป่าแคน หมอทำขวัญนาค ก็ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำขวัญนาค และอีกหลายหมอก็ตามแต่ว่าหมอไหนจะเชี่ยวชาญเรื่องใดๆ คำว่าหมออกความหมายก็คือผู้รักษา ดังนั้นหากแปลตามตัว หมอธรรมก็คือ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับธรรมและรักษาด้วยธรรมนั่นเอง   หากแต่วิชาที่หมอธรรมร่ำเรียน มิได้เป็นแค่การรักษาด้วยว่านยา และถ่ายทอดธรรมคำสอนศาสนาเพียงอย่างเดียว หมอธรรมผู้ที่จะเป็นต้องศึกษาเกี่ยวกับวิชาคาถาอาคม ไสยศาสตร์ให้แตกฉาน เพราะหน้าที่ของหมอธรรม มีมากมาย ทั้งเป็นผู้ช่วยพระ ปราบผี ปราบปอบ รดน้ำมนต์ถอนของต่างๆ นั่นก็เพราะแต่โบราณ ความเชื่อเรื่องคาถาอาคม คนเล่นของเรียนวิชามากมายกว่าสมัยนี้ บางครั้งก็ผีป่า ผีเข้าเจ้าสิงนั้นมีมากมาย เพราะแต่เดิมการนับถือผีเป็นที่แพร่หลาย ก่อนที่จะมีการรับศาสนาพุทธจะเข้ามาเป็นหลักในภายหลัง   วิชาที่หมอธรรมร่ำเรียน นอกจากคาถาอาคม-เวทย์มนต์ ก็ยังมีวิชาเฉพาะของหมอธรรม ที่เรียกกันว่า วิชาธรรม ที่ปัจจุบันแตกแขนงออกไปหลายอย่าง เช่น ธรร...